วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2557




คุณครูลมุล ยมะคุปต์

ประวัติและผลงานนาฎยประดิษฐ์ของครูลมุล ยมะคุปต์
ครูลมุล ยมะคุปต์
(.. 2448-2525) เกิดที่จังหวัดน่าน เมื่ออายุได้ ขวบ บิดาได้พามาถวายตัวเป็นละครที่วังสวนกุหลาบ และที่วังสวนกุหลาบ ครูลมุลได้ความรู้ทางละครในรูปแบบของละครนอก ละครในและละครพันทาง ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่วังเพชรบูรณ์ และได้ความรู้ในเรื่องของละครดึกดำบรรพ์ เมื่อออกจากวังเพชรบูรณ์ ครูลมุลได้สมรสกับครูสงัด ยมะคุปต์ และได้ขึ้นไปเป็นครูสอนละครที่เชียงใหม่ในคุ้มพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ซึ่งครูลมุลได้ความรู้เกี่ยวกับนาฏยศิลป์ล้านนาและพม่า ครูลมุลได้นำคณะละครไปแสดงที่เมืองพระตะบอง ประเทศเขมร อยู่ 1 ปี ซึ่งคงได้ประสบการณ์ด้านดนตรีและนาฏศิลป์ของเขมรมาบ้าง ต่อมาเข้ารับราชการเป็นครูแผนกนาฏศิลป์ กรมศิลปากร และทำงานตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย มีผลงานระหว่างปี พ.. 2477-2525 มากกว่า 50 ชุด แบ่งได้เป็น ประเภท คือ
 1ระบำที่ยึดแบบแผนนาฏยศิลป์ไทย 
 2ระบำที่ผสมผสานทั้งอาศัยและไม่ได้อาศัยแบบแผนนาฏยศิลป์ไทย
 3ระบำจากภาพแกะสลักโบราณคดี
 4. ระบำประกอบเครื่องดนตรี 
 5. ระบำกำ-แบ 
6ระบำเลียนแบบท่าทางของสัตว์ ผลงานเหล่านี้ผู้วิจัยพบว่ามี 2 แนว คือ แนวอนุรักษ์และแนวพัฒนา ระบำพม่า-มอญ ที่ผู้วิจัยใช้เป็นกรณีศึกษานี้ เป็นระบำประเภทผสมผสานลักษณะท่ารำของพม่าและท่ารำของมอญ ผู้วิจัยพบว่ครูลมุล ยมะคุปต์ น่าจะได้แนวคิดจากแหล่งที่มาดังนี้ 1ท่ารำมอญของชาวมอญในประเทศไทย
2ท่ารำของมอญในละครพันทาง 
3. ท่ารำของพม่าในละครพันทาง 
4. ท่ารำของฟ้อนม่านมุ้ยเชียงตาทางภาคเหนือ ระบำพม่า-มอญเป็นระบำในละครพันทางเรื่องราชาธิราชตอนกระทำสัตย์ แสดงเมื่อปี 2496 ผู้แสดงเป็นหญิงล้วน แบ่งออกเป็น กลุ่ม คือ พม่าและมอญ แบ่งการแสดงเป็น ท่อน คือ 1. กลุ่มพม่าออกในเพลงรัวพม่า 
2กลุ่มมอญออกในเพลงมอญยาดเล้ 
3รำพร้อมกัน
4. รำเข้าในเพลงรัวมอญ ปัจจุบันการแสดงระบำพม่า-มอญยังคงรูปแบบการแสดง และจัดอยู่ในหลักสูตรการเรียนการสอนของวิทยาลัยนาฏศิลป์ กรมศิลปากร ในกรณีศึกษาระบำพม่า-มอญ ผู้วิจัยพบว่าครูลมุลสามารถนำเอาท่ารำของต่างชาติ มาประดิษฐ์ขึ้นใหม่ได้อย่างแนบเนียนและกลมกลืน ระหว่างนาฏยศิลป์ รูปแบบที่แตกต่างกันอย่างมาก ทั้งยังเป็นแนวคิดและกลวิธีที่เป็นประโยชน์ต่อการประดิษฐ์ระบำในยุคหลังๆ และเนื่องจากผลงานนาฏยประดิษฐ์ของครูลมุลมีมาก จึงควรมีการวิจัยที่ล่มลึกศึกษากันต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น